ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เผยในแถลงการณ์ของทำเนียบขาวเมื่อวันเสาร์ว่า โรเบิร์ต ทรัมป์ น้องชายของเขาเสียชีวิตลงแล้วในวัย 71 ปี หลังจากเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยอาการป่วยที่ไม่เปิดเผย

แฟ้มภาพ โรเบิร์ต ทรัมป์ สวมกอดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พี่ชาย ภายหลังทรัมป์กล่าวสุนทรพจน์ประกาศชัยชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2559
ประธานาธิบดีทรัมป์ วัย 74 ปี กล่าวในถ้อยแถลงเมื่อวันเสาร์ที่ 15 สิงหาคมว่า โรเบิร์ต น้องชายของเขาเสียชีวิตอย่างสงบเมื่อคืนที่ผ่านมา โรเบิร์ตไม่ใช่แค่น้องชายเท่านั้น แต่ยังเป็นเพื่อนสนิทของเขาด้วย เขาคิดถึงน้องชายมาก แต่พวกเขาจะได้พบกันอีก ความทรงจำที่มีต่อน้องคนนี้จะอยู่ในใจเขาตลอดกาล ขอให้น้องได้พักผ่อนอย่างสงบสุข
สื่อสหรัฐรายงานว่า โรเบิร์ต ทรัมป์ ล้มป่วยหนัก แต่ไม่มีการเปิดเผยว่าเขาป่วยด้วยโรคอะไร
ทรัมป์เดินทางไปเยี่ยมโรเบิร์ตที่โรงพยาบาลในนครนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ โดยใช้เวลาอยู่กับน้องชายที่โรงพยาบาลนานราว 45 นาที จากนั้นเขาเดินทางไปพักผ่อนช่วงสุดสัปดาห์ที่สโมสรกอล์ฟของเขาในเมืองเบดมินสเตอร์ รัฐนิวเจอร์ซีย์ ที่อยู่ไม่ไกลจากนิวยอร์ก ทรัมป์กล่าวกับนักข่าวเมื่อวันศุกร์แค่ว่า เขากำลังประสบกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก
โรเบิร์ตเป็นลูกคนเล็กในบรรดาพี่น้อง 5 คน โดยเกิดหลังประธานาธิบดีทรัมป์ 2 ปี ทั้งคู่มีนิสัยต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทรัมป์เคยกล่าวถึงน้องชายคนนี้ว่าเป็นคนที่พูดจานุ่มนวลและเป็นคนง่ายๆ นิวยอร์กไทมส์เคยรายงานว่าพี่น้องคู่นี้ห่างเหินกันหลายปีก่อนหน้าที่ทรัมป์จะลงเลือกตั้ง แต่โรเบิร์ตยืนยันกับนิวยอร์กโพสต์เมื่อต้นปี 2559 หลังจากพี่ชายเสนอตัวชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี ว่าเขาสนับสนุนโดนัลด์พันเปอร์เซ็นต์
แม้จะเป็นคนเงียบๆ และมักหลีกเลี่ยงจากการเป็นจุดสนใจ แต่เมื่อต้นปีนี้ โรเบิร์ตตกเป็นข่าวจากความพยายามที่ไม่สำเร็จของเขา เพื่อขัดขวางการตีพิมพ์หนังสือของแมรี ทรัมป์ หลานสาวที่เป็นลูกของเฟร็ด จูเนียร์ พี่ชายคนโตของครอบครัวที่เสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2524 หนังสือชื่อ "Too Much and Never Enough: How My Family Created the World's Most Dangerous Man" เล่มนี้ แฉความขัดแย้งภายในตระกูลทรัมป์และโจมตีอาผู้ทรงอิทธิพลของเธอ.
"เล็ก" - Google News
August 16, 2020 at 11:00PM
https://ift.tt/3h4NJqv
ประธานาธิบดีทรัมป์เศร้า น้องชายคนเล็กเสียชีวิตในวัย 71 ปี - ไทยโพสต์
"เล็ก" - Google News
https://ift.tt/3eDvcQu
Home To Blog

No comments:
Post a Comment