วันที่ 11 ก.ค. ทางการกรุงโซลเปิดเผยภาพจดหมายสั่งลาของนายพัค วอน ซุน วัย 64 ปี นายกเทศมนตรีกรุงโซลผู้ล่วงลับ เป็นกระดาษสีขาวเขียนด้วยพู่กันกับน้ำหมึก พร้อมลงลายมือชื่อของเขาเอง ถูกวางทิ้งไว้บนโต๊ะทำงานภายในบ้านพัก ข้อความสำคัญของจดหมายระบุว่า "ผมขอแสดงความเสียใจกับทุกคน ผมขอขอบคุณทุกคนที่อยู่ด้วยกันมาในชีวิต ขอโทษครอบครัว คนที่ผมทำให้รู้สึกเจ็บปวด" นอกจากนี้เป็นการระบุถึงการขอให้เผาศพแล้วนำอัฐิไปไว้ที่สุสานของครอบครัว
แม้ในจดหมายจะไม่ได้ระบุตรงๆ ถึงสาเหตุที่ทำให้เขาตัดสินใจลาโลก และไม่ได้ระบุถึงประเด็นที่เขาเพิ่งถูกอดีตเลขาส่วนตัวกล่าวหาว่าล่วงละเมิดทางเพศ เพียง 1 วันก่อนหน้านั้น แต่ข้อความว่า "ขอโทษคนที่ผมทำให้รู้สึกเจ็บปวด" คงจะมีความหมายลึกๆเกี่ยวพันกับข้อกล่าวหานี้เป็นแน่
สถานีโทรทัศน์ SBS รายงานว่า ก่อนที่นายพัคจะตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเองเพียง 1 วัน คือเมื่อค่ำวันพุธที่ 8 กรกฎาคม 2563 อดีตเลขาส่วนตัวของเขาได้ไปยื่นข้อกล่าวหากับตำรวจว่า เคยถูกนายพัคล่วงละเมิดทางเพศในเวลาทำงาน ตั้งแต่ปี 2560 ข้อกล่าวหาระบุว่าเธอเริ่มทำงานเป็นเลขาส่วนตัวของนายพัคตั้งแต่ปี 2558 และต่อมานายพัคมีพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศ และมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมระหว่างการทำงาน โดยนายพัคให้เธอกอดเขาในห้องนอนที่เชื่อมต่อกับห้องทำงานในสำนักงานบริหารกรุงโซล และหลังเลิกงาน นายพัคได้ส่งภาพถ่ายเซลฟี่ตัวเองที่สวมเพียงกางเกงชั้นในมาให้เธอ พร้อมข้อความลามกผ่านแชตในแอปพลิเคชันแมสเซนเจอร์
อดีตเลขา ยังเปิดเผยในแถลงการณ์ที่ยื่นต่อตำรวจกรุงโซลว่า ที่ผ่านมาเธอได้แต่บอกตัวเองว่าให้ยอมๆ ไปเพราะเป็นผลดีกับกรุงโซล ตัวเธอเองและนายกเทศมนตรีพัค ทั้งๆ ที่เธอกลัวมากและยังรู้สึกอัปยศอดสูกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ตำรวจยืนยันว่ามีการยื่นเอกสารข้อกล่าวหารวมถึงแถลงการณ์ของอดีตเลขาจริง แต่ไม่ได้ยืนยันในรายละเอียดข้อกล่าวหาเนื่องจากเป็นประเด็นเรื่องส่วนตัว
ด้านนายลี แฮ ชาน หัวหน้าพรรคประชาธิปไตย (ดีพี) ที่เคยหมายมั่นปั้นมือว่าจะส่งนายพัค วอน ซุน ลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีในการเลือกตั้งครั้งหน้า ได้ออกมาตวาดนักข่าวเมื่อถูกถามว่าทางพรรคดีพี มีท่าทีอย่างไรต่อกรณีที่นายพัค โดนอดีตเลขายื่นฟ้องล่วงละเมิดทางเพศ โดยเขาบอกว่า ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะมาพูดเรื่องคดีในเวลาแห่งความสูญเสียแบบนี้
ขณะที่กลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศในเกาหลีใต้เชื่อว่า หากนายพัคไม่ได้เสียชีวิตในวันนี้ คงจะมีการสืบสวนข้อกล่าวหานี้เป็นคดีใหญ่ จะต้องมีการนำหลักฐานออกมาเปิดเผย แต่เมื่อนายพัคตัดสินใจลาโลกไปแล้วคดีนี้ก็เป็นอันสิ้นสุดไปโดยอัตโนมัติ และอาจจะไม่มีการดำเนินการสืบสวนหลักฐานอะไรต่อไป อาจเป็นอีกครั้งที่ผู้ล่วงละเมิดทางเพศในคดี #MeToo สามารถหลบเลี่ยงการถูกเปิดโปงหลักฐานและพิจารณาคดี ในขณะที่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อจะต้องแบกรับความเจ็บปวดใจไปตลอดชีวิต
เกาหลีใต้ยังเรียกได้ว่าเป็นประเทศที่มีสังคมชายเป็นใหญ่ แม้ว่าจะมีความก้าวไกลเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ขณะที่กระแสเคลื่อนไหว #MeToo ในเกาหลีใต้ได้รับความสนใจอย่างมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หลังจากอัยการหญิงรายหนึ่งออกมาเปิดโปงว่าถูกหัวหน้าล่วงละเมิดทางเพศในงานศพ ซึ่งมีคนเห็นเหตุการณ์เป็นพยานจำนวนมาก
นอกจากนี้ยังเกิดกรณีอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดที่เคยจะลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีในปี 2560 ได้ถูกศาลตัดสินจำคุกเมื่อปีที่แล้วในข้อหาข่มขืน ล่วงละเมิดทางเพศผู้ช่วยในที่ทำงาน
แม้ทางตำรวจจะยังไม่ได้ออกมายืนยันอย่างเป็นทางการว่านายพัค วอน ซุน ฆ่าตัวตาย แต่ก็ไม่มีข้อสงสัยอื่นใดเกี่ยวกับการเสียชีวิตของเขา หากมีการยืนยัน นายพัค วอน ซุน นักกฎหมายและนักการเมืองผู้มีภาพลักษณ์ใสสะอาดมาตลอด จะเป็นหนึ่งในบุคคลระดับสูงของทางการเมืองเกาหลีใต้ ที่ก่อเหตุอัตวินิบาตกรรมเพราะละอายต่อความผิด นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโนห์ มู เฮียน วัย 62 ปีที่กระโดดลงจากหน้าผาเสียชีวิตในปี 2552 หลังถูกสอบสวนในคดีทุจริตฉ้อฉล กรณีครอบครัวของเขารับสินบนจากนักธุรกิจมหาเศรษฐี.
"เล็ก" - Google News
July 11, 2020 at 10:25PM
https://ift.tt/326Rsz2
เปิดปมจม.สั่งลานายกเล็กกรุงโซล จุดประเด็นปัญหาล่วงละเมิดทางเพศในที่ทำงาน - ไทยรัฐ
"เล็ก" - Google News
https://ift.tt/3eDvcQu
Home To Blog
No comments:
Post a Comment