สาเหตุมันเกิดจากอะไร?
“คือในทุกๆ ความสัมพันธ์ของคนทั่วไป มันก็ต้องมีทั้งความทรงจำที่ดี มีเรื่องที่ทะเลาะกันบ้าง ไม่เข้าใจกันบ้าง ปรับจูนกันบ้างเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว อย่างเต้ยกับเล็กเวลาเราสัมภาษณ์เราก็จะบอกว่าเรามีเรื่องที่ต้องจูนเข้าหากันค่ะ เพราะฉะนั้นคือเราก็เลือกที่จะเซฟความสัมพันธ์ที่ดีเข้าไว้
เราทำความรู้จักกันมาในช่วง 3 ปี เราก็จะรู้ว่าเป็นยังไง เราเข้ากันได้หรือไม่ได้ขนาดไหน วันนี้มันก็เลยเหมือนแบบต้องใช้ความกล้าหาญในการยอมรับมันเหมือนกัน ในการตัดสินใจของทั้งคู่ค่ะ”
ลำบากใจมั้ยที่เราตัดสินใจที่ไม่ไปต่อ?
“มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อยู่แล้วค่ะสำหรับเรื่องเหล่านี้เนอะ คือเต้ยเองก็โตแล้ว เรา 30 แล้วทั้งคู่ มันไม่ใช่เรื่องที่เราตัดสินใจอาทิตย์ 2 อาทิตย์ค่ะ เป็นเรื่องที่เราต้องใช้เวลา เราเวิร์คออนความสัมพันธ์นี้กันค่อนข้างเยอะค่ะ
เราสามารถพูดได้เลยว่า เราจะไม่มีวันพูดว่า รู้งี้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ดีกว่า เราตั้งใจเต็มที่กับครั้งนี้ค่ะ ก็เลยรู้สึกว่าการที่เราตัดสินใจทางนี้ มันเป็นอะไรที่เฮลตี้มากกว่าสำหรับเราทั้งคู่ และเราเองก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน มีอะไรก็ยังคุยกันเสมอ”
ใครเป็นคนพูดขึ้นมาก่อน?
“อย่างที่บอกมันเป็นการตัดสินใจของเราทั้งสองคนค่ะ”
ก่อนที่อาเล็กจะออกมาพูด ได้มีการคุยกันก่อนมั้ย หรือเต้ยรู้พร้อมกับที่ทุกคนรู้?
“ไม่ค่ะ คุยกันมาตลอดค่ะ อย่างที่จะมาเจอพี่ๆ ทุกคนวันนี้ ก็มีการคุยกับเล็กตลอด เพราะว่าเล็กเองเค้าก็ค่อนข้างเป็นห่วงเรา กลัวว่าจะโดนเรื่องโน้นนี้ เราก็มีการคุยตลอด เล็กเองก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งในชีวิตเต้ยที่เค้าก็น่ารักมากๆ เลยค่ะ”
เสียดายเวลามั้ย 3 ปีที่ผ่านมา?
“ก็เสียดายค่ะ แต่ว่าไม่เสียดายที่เราได้รักกันและรู้จักกัน”
ก่อนหน้านั้นที่ เล็ก จะออกมาพูด เค้าก็ไปออกอีเวนต์ แต่เค้าเลือกที่จะไม่พูดเรื่องนี้ บอกแต่ว่ายังดีอยู่เพียงแค่ไม่มีเวลาให้กัน คิดว่าเพราะอะไร?
“ตอนนั้นเค้าก็ไม่ได้ตอบว่าเป็นยังไงนะคะ คือจริงๆ แล้วเรื่องนี้มันเกิดขึ้นมาประมาณสัก 3 เดือนแล้ว ด้วยความที่มันโควิดด้วยเนอะ โดยส่วนตัวเต้ยกับอาเล็ก เวลาเราทำอะไรก็ไม่จำเป็นต้องมาประกาศหรือว่าอะไรอย่างนี้อยู่แล้ว แล้วพอถึงจังหวะเหมาะที่มีคนถามพอดีเราก็คุยกันว่า คงบอกแหละ”
เป็นช่วงเวลาที่ต้องพูด?
“ใช่ค่ะ ก็ตัดสินใจที่จะตอบทุกคน”
แต่เต้ยก็ทราบใช่มั้ยว่าเราก็โดนหนักเหมือนกัน คนโยงว่าเราเลิกกับอาเล็กเพื่อจะไปคบไฮโซเหมือนแก๊งเพื่อน?
“คือประเด็นไฮโซ สำหรับเต้ย เต้ยไม่รู้ว่าอะไรอะไรคือคำจำกัดความของคำว่าไฮโซ ไม่รู้ว่าใครอะไรยังไง แต่สำหรับตัวเต้ยเอง ถ้าเกิดว่าเต้ยจะทำความรู้จักใคร หรือคบกับใคร
ประเด็นที่สำคัญกว่าของคำจำกัดความนี้คือคุณค่าของความเป็นคนคนนั้นมากกว่า ว่าเค้าเป็นคนยังไง มีทัศนคติแบบไหนเราเข้าใจกันมั้ย เราไปกันได้รึเปล่า ไลฟ์สไตล์เราเข้ากันได้รึเปล่า สิ่งนี้เต้ยว่าสำคัญกว่าค่ะ”
เครียดมั้ยกับกระแสที่ว่าเราว่ากลุ่มเราต้องคบไฮโซ?
“เอาเต้ยคนเดียวเนอะ คือถ้าสมมติว่า เป็นเต้ยเมื่อ 3 ปี 5 ปี 10 ปีที่แล้ว คงเครียดแหละ แต่ว่า ณ วันนี้ เต้ยไม่ค่อยเครียดเท่าไหร่ค่ะ เพราะว่าเรารู้ตัวเองดี ทั้งคู่เลยนะ เรารู้เลยว่าเราทำอะไร เราคิด เราตัดสินใจด้วยสติของเราแล้วจริงๆ เราคุยกันแล้วจริงๆ เพราะฉะนั้นใครจะพูดแบบไหนไม่เป็นไร แล้วแต่เค้าค่ะ”
มันไม่ได้บั่นทอนเราเลยใช่มั้ย ใจเราเข้มแข็งพอ?
“มันก็มีความกังวลนิดนึงนะคะว่า ต้องมาตอบคำถามหรือว่ามาอะไรอย่างนี้ แต่สุดท้ายแล้วเราโอเคมาก เพราะเรารู้อยู่ว่าเราเป็นคนยังไง เราทำอะไร”
เครียดมั้ยเพราะคนต้องจับตามองว่าหลังจากนี้เต้ยจะคบใครเป็นไฮโซจริงรึเปล่า?
“(ยิ้ม)เต้ยรู้สึกว่าเหมือนตอนนี้คนจะมาพุ่งประเด็นไปที่แบบ เต้ยจะต้องเป็นแบบนี้แบบนั้นแน่เลย ซึ่งเหมือนโดนทำนายอนาคต แต่ว่า ณ ตอนนี้ไม่มีใครเข้ามาจริงๆ ค่ะ ณ ตอนนี้เต้ยไม่สามารถรู้ได้ว่า คนที่เข้ามาจะเป็นใคร จะไฮโซไม่ไฮโซ ในวงการ นอกวงการ อนาคตเราไม่รู้อ่ะค่ะ”
มีใครแนะนำใครมั้ย?
“ยังๆ”
แล้วกับ อาเล็ก จะมีโอกาสกลับมาเหมือนเดิมมั้ย เพราะหลายๆ คนก็เชียร์อยู่?
“เรื่องอนาคตมันเป็นเรื่องอนาคตมากๆ เลยค่ะ เพราะฉะนั้นเต้ยไม่สามารถรู้ได้หรอกว่าวันหนึ่งจะเป็นยังไง ถ้าเกิดว่าเราได้กลับมาเจอกัน มาคุยกันมันก็เป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้เราไม่รู้อนาคตจริงๆ ค่ะ”
ตอนนี้สภาพจิตใจแต้วเป็นยังไงบ้าง?
“พี่แต้วก็ดีขึ้นเรื่อยๆ นะคะเรื่องการสูญเสียมันก็เป็นเรื่องที่ไม่ดีเท่าไหร่ แต่ยอมรับเลยว่าพี่แต้วเข้มแข็งมากจริงๆ ค่ะ แม่นิด พี่เต๋าเองก็ดีขึ้นทุกวันค่ะ เราก็มีไปช่วยงานเรื่อยๆ ค่ะ อะไรที่ช่วยได้เราก็ช่วยค่ะ แต่หลักๆ แล้วครอบครัวพี่แต้วได้กำลังใจดีมากๆ อยู่แล้วค่ะ ทุกคนพร้อมใจไปช่วยงานของพ่อพี่แต้วกันทุกคนค่ะ”
"เล็ก" - Google News
July 10, 2020 at 06:32PM
https://ift.tt/3gLvaXC
เต้ย จรินทร์พร เลิก อาเล็ก ธีรเดช ไร้มือที่ 3 เปล่ามูฟออนไปคบไฮโซ (คลิป) - ไทยรัฐ
"เล็ก" - Google News
https://ift.tt/3eDvcQu
Home To Blog
No comments:
Post a Comment